การกำผ้าขนหนูทุกวันจะช่วยลดความดันโลหิต และป้องกันเส้นเลือดในสมองแตกได้ชัวร์หรือมั่วชัวร์ ก่อนอื่นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ราคาถูก บ้านพักคนชราiCare Seniors Home ได้สอบถามกับแพทย์ผู้ชี่ยวชาญโรคไต และค้นหาจาก บ้านพักคนชรา pantip ซึ่งได้ใจความกับคุณหมอว่า การกำผ้าขนหนูจะช่วยลดความดันโลหิตได้จริงเหรอค่ะ ซึ่งแพทย์ได้ตอบว่า เป็นความจริง
จากผลงานการวิจัยในประเทศตะวันตก และ ประเทศเอเชีย ที่มีรายงานทางการแพทย์กันมานั้น การกำผ้าขนหนูทุกวันด้วยความแรง 30% โดยกำค้างไว้ 1 ถึง 2 นาทีต่อหนึ่งครั้ง แล้วทำซ้ำอีกวนไปวนมาทั้งหมด 4 รอบ แล้วเปลี่ยนข้าง โดยสัปดาห์หนึ่งทำซัก 4 วัน ผลที่ได้รับ คือ ทำให้ความดันโลหิตลดลงสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นความดันโลหิตสูง ประมาณ 5 - 10 มิลลิเมตรปรอทโดยผลที่ได้รับนั้นจะขึ้นอยู่กับผู้สูงอายุแต่ละคน แต่จะต้องทำประจำ 2 เดือน หรือ 8 อาทิตย์
เพราะว่าการที่เราบีบให้เลือดออกไปจากข้อมือที่แขนแล้วปล่อยทันที ช่วงที่เลือดของเราคลายตัวเลือดจะเข้าไปกระตุ้น โดยจะทำให้หลอดเลือดสร้างสารตัวหนึ่ง เรียกว่า ไดติกอ๊อกไซร์ ซึ่งสารนี้จะดีต่อเส้นเลือด และดีต่อความดันโลหิต การต้านอนุมูลอิสสระดีขึ้น รวมทั้งลดระบบประสาทบางชนิดที่เป็นตัวเร่งให้เกิดความดันโลหิตสูง ภายในระยะเวลาประมาณ 2 เดือน ความดันโลหิตของผู้สูงอายุจะค่อยๆดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องปรับยาลดความดัน และการกำผ้าขนหนูต่างๆจะยังช่วยลดข้ออักเสบ ข้อเสื่อมได้ด้วย
vdo ฝึกการยกขาทั้งสองข้าง : https://youtu.be/CWO72l5OrGA
การลดความดัน 5 – 10 มิลลิเมตรปรอทมีความหมายแค่ไหน ?
ความดันลดลงแค่ 2 – 3 มิลลิเมตรปรอท ก็ลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจ เส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดสมองแตก และลดโอกาสที่จะเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ผู้สูงอายุที่มีภาวะโรคความดันโลหิตสูงจะต้องคอยกำผ้าขนหนูไปตลอดชีวิตหรือเปล่า อันนี้คุณหมอก็ยังไม่รู้ หรือยังบอกไม่ได้ แต่ในระยะสั้น 8 สัปดาห์จะเห็นผลทันที โดยการกำผ้าขนหนูนี้ไม่มีอันตรายใดๆ แต่อาจจะมีผลกับผู้สูงอายุที่มีภาวะเส้นเลือดโป่งพอง ก็จะไม่แนะนำให้ทำ เพราะการบีบต่างๆจะไปเพิ่มแรงดันเส้นเลือดในท่อหรือหลอดเลือดที่โป่งออกมาได้ ถ้าผู้สูงอายุที่มีความดันปกติ เช่น 120 ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปบีบผ้าขนหนู และการกำมืออย่างเดียวก็ไม่ได้ช่วยให้การรักษาโรคนั้นสมบูรณ์แบบ แต่ความสมบูรณ์แบบจริงๆเกิดจากการออกกำลังกายเป็นประจำ จากข้อมูลของ บ้านพักคนชรา กรุงเทพ การเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ การเดินขึ้นบันได ไม่ใช่นั่งนิ่งๆอยู่กับที่ โดยการออกกำลังควรจะออกอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละ 30 – 40 นาที โดยขอให้ผู้สูงอายุมีเหงื่อออกมาอันนี้ก็น่าจะดีกว่า ตามคำแนะนำของแพทย์ และการที่ออกกำลังกายอย่างเดียวโดยไม่สนใจหรือควบคุมสภาวะต่างๆโดยรอบก็มีผลต่อโรคความดันโลหิตสูง โดยผู้สูงอายุสามารถป้องกันเส้นเลือดในสมองแตกได้ตามธรรมชาติ เช่น การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่กินค็ม ไม่ทานอาหารรสจัด กินผลไม้และผักเป็นประจำและพอแหมาะ รวมทั้งยังคงต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยการควบคุมดังที่กล่าวมาข้างต้นมีหลักฐานทางการแพทย์ว่า 100% สามารถลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ป้องกันโรคไต ลดโรคที่เกี่ยวกับความดันโลหิต หรือลดการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต ได้ดีกว่า
วีดีโอการนั่งปั่นจักรยานที่สวน : https://youtu.be/PPjPSdzLgBw
การไหลเวียนของเลือดขนาดเล็ก โดยหลอดเลือดขนาดเล็กถือเป็นหัวใจดวงที่สองของร่างกายผู้สูงอายุ 90% ของเส้นเลือดที่อยู่ในร่างกายของผู้สูงอายุ จะมีระบบการไหลเวียนของเลือดขนาดต่างๆ รวมถึงน้ำเหลือง ซึ่งเป็นระบบที่ ทำหน้าที่คล้ายๆกับท่อระบายน้ำเพื่อถ่ายเทของเสียออกจากร่างกายของผู้สูงอายุ การไหลเวียนของเลือดนี้จึงใกล้เคียงกับหัวใจ ดวงที่ 2 ของร่างกายผู้สูงอายุ จากข้อมูลของ ศูนย์ดูแลผู้ป่วย ได้ระบุว่าระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายแบ่งออกเป็น 2 ระบบได้แก่ 1.ระบบการไหลเวียนของเลือดขนาดใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วย เส้นเลือดดำใหญ่ และเส้นเลือดแดงใหญ่ และ 2.การไหลเวียนของเลือดขนาดเล็กซึ่งเป็นขนาดรอง มีทั้งเส้นเลือดฝอย เส้นเลือดดำขนาดเล็กโดยทางศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ pantip การแพทย์ระบุว่า เลือดในร่างกายของมนุษย์หากนำมาต่อรวมกันแล้วจะยาวประมาณ 1แสน กิโลเมตร โดยสามารถวนรอบโลกได้ถึง 2 รอบเลยทีเดียว การไหลเวียนของเส้นเลือดขนาดใหญ่จะต้องอาศัยการบีบตัวของหัวใจเข้าสู่ เส้นเลือดแดงใหญ่ การผ่านของเส้นเลือดแดงใหญ่ไปทั่วร่างกายของผู้สูงอายุนั้น ถ้าจะต้องอาศัยแรงบีบอย่างเดียวก็ไม่น่าจะเพียงพอ เพราะร่างกายมีหลายระบบและส่วนที่ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดตรงส่วนนี้ไปยังทุกส่วนของร่างกายได้นั้นจะต้องอาศัยส่วนต่างๆ ของเส้นเลือด และจะต้องมีการไหลเวียนของเส้นเลือดขนาดเล็ก และเพื่อให้เลือดไดไปถึงส่วนการทำงานของเซลล์เนื้อเยื่อของอวัยวะอันนั้น ทำให้เส้นเลือดเหล่านี้บีบตัวกลับมาที่ต่อจากหัวใจ และส่งเลือดไปยังอวัยวะทุกส่วนต่างๆของร่างกายอย่างทันท่วงที และเส้นเลือดขนาดเล็กนี้จะแตกต่างจากจังหวะของการบีบเลือดของหัวใจ โดย 90 เปอร์เซ็นต์ของเส้นเลือดในร่างกายจะอยู่ในระบบการไหลเวียนของเส้นเลือดขนาดเล็ก นอกจากนี้ ระบบการไหลเวียนของเส้นเลือดขนาดเล็กจะรวมถึงต่อมน้ำเหลืองด้วย เส้นเลือดขนาดเล็กนี้ได้สร้างสมดุลและความเหมาะสมกับการทำหน้าที่ของเซลล์ และเนื้อเยื่ออวัยวะนั้นๆจึงจำเป็นต้องมีต่อมน้ำเหลืองที่คอยทำหน้าที่เหมือนช่วยว่ายน้ำ เพื่อถ่ายเทของเสียออกจากร่างกาย เส้นเลือดเล็กๆเล็กๆ นี้จึงเปรียบเสมือนหัวใจดวงที่สองของร่างกาย ไม่ว่าอวัยวะในร่างกายของผู้สูงอายุหรือของเด็กนั้น ต่างก็ต้องอาศัยระบบการไหลเวียนของเลือดขนาดเล็ก จึงจะสามารถทำงานได้อย่างปกติ ในอวัยวะส่วนต่างๆ การเคลื่อนไหว
www.icareseniorshome.com