สวัสดีค่ะวันนี้ icare seniors home จะมาอธิบายถึงโรคภาวะสมองเสื่อมว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะมีอาการอย่างไรบ้าง รวมถึงความแตกต่างระหว่างสมองเสื่อมที่เป็นแบบเทียมกับสมองเสื่อมที่เป็นแบบเสื่อมจริงๆ รวมถึงวิธีการตรวจเช็คว่าเป็นโรคสมองเสื่อมหรือไม่ว่ามีวิธีการอย่างไร
ตัวอย่าง vdo การฝึกเดินในบ้าน :
https://youtu.be/CTL97ScbuTw
อันดับแรกเลยเราจะมาพูดถึงว่า โรคสมองเสื่อมนั้นคืออะไร โรคสมองเสื่อมนั้นจริงๆ แล้วก็คืออาการของโรคแบบหนึ่งของผู้สูงอายุที่สามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ซึ่ง
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ รายวัน เขตบางกะปิ นั้นได้อธิบายว่าโรคสมองเสื่อมนั้นก็คือ ความจำ การคำนวณ รวมถึงความสามารถในการเรียนรู้และการใช้สมอง ในการคิดที่เป็นระบบซับซ้อน โดยประสิทธิภาพในการสื่อสารและการแปลความหมายนั้น มีประสิทธิภาพที่ลดถอยลงไปในทุกๆ ด้านที่กล่าวขึ้นมาข้างต้น
ทางญาติอาจจะอยากทราบว่าผู้สูงอายุที่อยู่กับเรานั้นเป็นโรคสมองเสื่อมหรือไม่ โดยทางบ้านพักคนชรา ราคาไม่แพง เขตสวนหลวง แนะนำว่าจะต้องทำการตรวจโดยหมอผู้เชี่ยวชาญซึ่งคุณหมอนั้นจะมีวิธีการสังเกตการณ์ การทดสอบความจำ หรือให้ทดลองทำการแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับคนชราที่เริ่มมีอาการของโรคสมองเสื่อม ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ป่วยที่เป็นโรคสมองเสื่อมนั้นจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ไม่ดี แต่ความจำในอดีตนั้นจะยังคงดีมาก
ต่อมาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ราคาไม่แพง เขตสวนหลวง นั้นจะอธิบายถึงส่วนประกอบที่สำคัญในสมอง โดยเริ่มจากกะโหลกศีรษะ จะมีเนื้อเยื่อดูล่า หลอดเลือด น้ำหล่อเลี้ยงในสมอง และไขสันหลัง ซึ่งอยู่ในส่วนหน้าของสมอง โดยสมองส่วนหน้านั้นจะมีหน้าที่ควบคุมความจำ ความมีเหตุมีผล ควบคุมพฤติกรรมควบคุมสติปัญญา รวมถึงบุคลิกภาพ
ต่อมาเราจะพูดถึงสมองส่วนด้านข้างหรือกลีบขมับนั้น จะควบคุมในเรื่องของพฤติกรรม ความจำ การมองเห็น อารมณ์ ควบคุมการพูดการจา รวมถึงควบคุมการได้ยินของผู้สูงอายุ

บริเวณต่อมาที่จะพูดถึงก็คือสมองส่วนกลางหรือกลีบข้างขมับ จะควบคุมผู้สูงอายุทางด้านความมีเหตุมีผล การควบคุมทิศทาง การควบคุมทางด้านภาษาและการสื่อสาร การอ่าน การควบคุมทางด้านสติปัญญา และการควบคุมทางด้านการสัมผัส และความรู้สึก
ต่อมาจะพูดถึงก้านสมองซึ่งอยู่ด้านล่างสุดของสมองนั้น จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างไขสันหลังกับสมอง จะควบคุมผู้สูงอายุทางด้านการย่อยอาหาร การกลืน จังหวะการเต้นของหัวใจการหายใจ การหดตัวของปอด การขยายตัวของปอด ความดันโลหิต การหดตัวของเส้นเลือด และการยืดตัวของเส้นเลือด
สมองส่วนสุดท้ายที่จะพูดถึงก็คือสมองน้อยจะอยู่ทางด้านหลังค่อนข้างลงไปด้านล่าง จะควบคุมการทรงตัว ควบคุมในเรื่องของระบบกล้ามเนื้อให้สัมพันธ์กัน และควบคุมศูนย์ประสาทการทำงานส่วนต่างๆ ของร่างกาย

ต่อมาจากข้อมูลของหมอที่ดูแลผู้สูงอายุในเขตฝั่งธน นั้นได้อธิบายเพิ่มเติมว่าข้อแตกต่างระหว่างสมองเสื่อมแบบเทียมกับสมองเสื่อมแบบจริงนั้นต่างกันยังไง โดยคนที่เป็นโรคสมองเสื่อมเทียมนั้นส่วนใหญ่คนไข้มักจะอธิบายกับหมอที่รักษาว่า ตนเองนั้นมีความวิตกกังวล ว่าจะเป็นโรคสมองเสื่อม รวมถึงมีความกังวลว่าตัวเองนั้นเป็นคนขี้หลงขี้ลืมง่ายกว่าปกติ เมื่อเปรียบเทียบกับอดีตและปัจจุบัน
ส่วนผู้ที่เป็นโรคสมองเสื่อมจริงๆ นั้นผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้ตัว แต่ญาติและคนใกล้ชิดนั้นจะทราบถึงอาการและจะต้องคอยสังเกตอาการ และบอกข้อมูลให้กับหมอที่รักษาทราบถึงความผิดปกติ ซึ่งคนชราที่เป็นสมองเสื่อมจริงๆ นั้น สมองจะเสื่อมแบบค่อยเป็นค่อยไป
ต่อมาเราจะมาพูดถึงว่าเราจะเรียกโรคสมองเสื่อมเทียมได้อย่างไรบ้าง โดยโรคสมองเสื่อมเทียมนั้นทางหมอจะอธิบายกับผู้สูงอายุที่เสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้ ก็คือ ผู้ที่มีภาวะความเครียด โรคซึมเศร้า โรคจิตประสาทอ่อนๆ หรือโรคจิตประสาทประเภทต่างๆ รวมถึงความวิตกกังวล การที่ผู้สูงอายุนั้นนอนไม่หลับ ซึ่งจากอาการข้างต้นนี้ทำให้ความคิด และความอ่านของสมองนั้นผิดปกติไป
ต่อมาเราจะมาพูดถึงว่าโรคสมองเสื่อมจริงนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง โดยปกติแล้วผู้สูงอายุที่เป็นโรคสมองเสื่อมจริงๆ นั้นก็เป็นไปตามธรรมชาติ และผู้สูงอายุส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถที่จะกลับมาใช้ชีวิตได้แบบเดิม ด้วยเหตุผลดังกล่าวดังต่อไปนี้ 1. คือการขาดวิตามินบี 12 2. การเป็นโรคอัลไซเมอร์ 3. เกิดเนื้องอกในสมองหรือเลือดคั่งในสมอง 4. การที่ผู้สูงอายุขาดออกซิเจน 5. การที่ผู้สูงอายุดื่มสุราเป็นเวลานาน 6. สมองเสื่อมจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น 7. โรคสมองเสื่อม ที่เกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ และ 8. โรคที่ติดเชื้อซึ่งมีผลทำให้สมองได้รับการกระทบกระเทือน โดยบางโรคนั้นก็ทำให้เกิดเป็นสมองฝ่อได้ เช่น โรคพาร์กินสัน ซึ่งโรคนี้จะทำให้ผู้สูงอายุนั้นเคลื่อนไหวตัวได้ช้าลง รวมถึงก็จะมีอาการสั่นบริเวณมือและขา เป็นต้น

หากญาติที่มีข้อสงสัยว่าผู้สูงอายุของท่านนั้นมีภาวะเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมหรือไม่ทางศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ icare seniors home เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250 แนะนำว่าควรที่จะไปพบแพทย์เพื่อที่จะเข้าเครื่องเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเรียกว่า mri โดยเครื่องนี้จะอาศัยพลังงานแม่เหล็กบวกกับคลื่นของคอมพิวเตอร์และวิทยุ ทำให้เกิดการสร้างภาพภายในร่างกายของผู้สูงอายุได้ โดยการ mri นี้มีประโยชน์ที่จะพบความผิดปกติของสมอง กระดูกข้อต่อต่างๆ รวมถึงระบบประสาทไขสันหลัง ซึ่งภาพ mri นั้นจะได้ภาพที่ชัดกว่าการตรวจด้วยเครื่อง ct scan และไม่มีผลรังสีต่อผู้สูงอายุ โดยทางเราแนะนำว่าการดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคสมองเสื่อมนั้น เราอยากจะให้ญาติเข้าใจก่อนว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ ทางเราไม่สามารถที่จะทำให้สมองกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ แต่เราก็จะต้องดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุและตัวเราให้ดีด้วยเช่นกัน โดยการงดการสูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด ลดความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน ลดทานอาหารที่มีไขมันสูง ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ รวมถึงควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดความเสี่ยงทางด้านความสำส่อนทางเพศ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเอดส์ ทำให้จิตใจแจ่มใสอยู่เสมอ รวมถึงหากิจกรรมที่ทำให้ส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว งดกิจกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว รวมถึงจะต้องไม่มีความเครียดจนเกินไป และครอบครัวก็จะต้องยอมรับและเข้าใจ รวมถึงให้ความสุขแก่ผู้สูงอายุด้วยนะคะ หากลูกค้าท่านไหนที่มีข้อสงสัยว่า
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ที่ไหนดี ที่จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุที่เป็นโรคสมองเสื่อม ก็สามารถติดต่อได้ที่ line id : icarehome หรือโทรได้ที่เบอร์ 092-614-9542 ทางเราจะมีพนักงานคอยตอบคำถามของท่านนะคะ ขอบคุณค่ะ
www.icareseniorshome.com